Long Tail Keyword – ทำ SEO ง่ายกว่าด้วยคีย์เวิร์ดหางย๊าวยาว
คีย์เวิร์ดที่เรานำมาทำ SEO สามารถแบ่งตามความเจาะจงของความหมาย ออกได้ 3 ประเภท ได้แก่ Long, Medium และ Short tail
1. Short-Tail keywords
คือคีย์เวิร์ดกว้างๆ มีปริมาณการค้นหาต่อเดือนใน Google สูง และโดยทั่วไปจะประกอบไปด้วยคำสั้นๆ เพียงหนึ่งคำ เช่น “กระเป๋า”
2. Medium-Tail keywords
คือคีย์เวิร์ดที่มีความเจาะจงมากขึ้นเมื่อเทียบกับคีย์เวิร์ดแบบ Short-Tail มีปริมาณการค้นหาต่อเดือนใน Google ปานกลาง และโดยทั่วไปจะประกอบไปด้วยคำ 2-3 คำขึ้นไป เช่น “กระเป๋าสตางค์ผู้ชาย”
3. Long-Tail keywords
Long-Tail Keyword: คือคีย์เวิร์ดที่มีความเจาะจงมากที่สุด มีปริมาณการค้นหาต่อเดือนใน Google ต่ำสุด ทั่วไปจะประกอบไปด้วยคำหลายคำเช่น “กระเป๋าสตางค์ผู้ชายราคาถูก ออนไลน์”
เมื่อคุณเปรียบเทียบคีย์เวิร์ดกว้างๆ อย่าง “กระเป๋า” กับ “กระเป๋าสตางค์ผู้ชายราคาถูก” จะเห็นชัดเจนว่า “กระเป๋าสตางค์ผู้ชายราคาถูก” มีความเจาะจงสูงกว่า นั่นคือข้อดีข้อหนึ่งของคีย์เวิร์ดที่มีความเจาะจง (Medium, Long-Tail Keyword)
เพราะว่าคนที่ใช้คำประเภทนี้หาอะไรสักอย่างใน Google มักจะมีความสนใจที่จะลงมือทำอะไรสักอย่างสูง
ตัวอย่าง
คนที่พิมพ์ “กระเป๋า” ลงไปใน Google เขาต้องการกระเป๋าเป้ กระเป๋าสะพาย หรือกระเป๋านักเรียน? ยากที่จะคาดเดา
คุณไม่มีทางรู้เลยว่าคนๆ นี้มีความต้องการกระเป๋าแบบไหน ในทางกลับกันคนที่พิมพ์ “กระเป๋าสตางค์ผู้ชายราคาถูก”
เขาคนนี้บอกความในใจต่อคุณอย่างชัดเจนว่ามีควานสนใจซื้อ “กระเป๋า” ประเภท “กระเป๋าสตางค์” สำหรับ “ผู้ชายเท่านั้น” แถมระบุด้วยว่าเขามีงบไม่มากนักจึงมองหา “กระเป๋าที่ราคาไม่แพงมาก”
ถ้าคุณเปิดร้านที่มีกระเป๋าลักษณะนี้บอกได้เลยว่าคุณปิดการขายได้ไม่ยากเลย เมื่อเปรียบเทียบกับคนแรกที่เข้าร้านคุณมาด้วยคำกว้างๆ อย่าง “กระเป๋า” นี่คือข้อดีข้อหนึ่งของคีย์เวิร์ดประเภทเจาะจงที่มักจะมีระดับความสนใจในสิ่งที่ค้นหาสูง
ถ้าคุณเปิดร้านที่มีกระเป๋าลักษณะนี้บอกได้เลยว่าคุณปิดการขายได้ไม่ยากเลย เมื่อเปรียบเทียบกับคนแรกที่เข้าร้านคุณมาด้วยคำกว้างๆ อย่าง “กระเป๋า” นี่คือข้อดีข้อหนึ่งของคีย์เวิร์ดประเภทเจาะจงที่มักจะมีระดับความสนใจในสิ่งที่ค้นหาสูง
ดังนั้นถ้าเว็บคุณเป็นเว็บใหม่ ยังไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือ (Authority) ในสายตาเครื่องมือค้นหามากนัก ผมแนะนำให้เริ่มต้นที่คำประเภท Long-tail เป็นอันดับแรก