hero banner - สอนสร้าง Backlinks
Home » Off-Page » สร้างลิงก์ (Backlink) ทำ Off-Page SEO ยังไง ไม่ให้ Google ทำโทษ

สร้างลิงก์ (Backlink) ทำ Off-Page SEO ยังไง ไม่ให้ Google ทำโทษ

ปัญหาหนึ่งที่นักทำ SEO จำนวนมากประสบคือไม่เข้าใจองค์ประกอบของการสร้างลิงก์ที่ถูกต้อง และนั่นหมายความว่าคุณล้มเหลวแล้วตั้งแต่เริ่มต้น โดยเฉพาะในโปรเจ็คที่มีการแข่งขันสูงๆ ในหัวข้อนี้เรามาทำความรู้จ้กและทำความเข้าใจถึงองค์ประกอบพื้นฐานในการสร้างลิงก์อย่างถูกต้องกัน

Backlink คืออะไร?

ในการทำ SEO เมื่อเราพูดถึง Link หรือ Backlink เราจะหมายถึง hyperlink จากหน้าหนึ่งชี้ไปอีกหน้าหนึ่ง จะเป็นการเชื่อมโยงกันภายในเว็บเดียวกัน หรือจากเว็บอื่นก็ได้

อธิบายคอนเซ็ปต์ Backlink

ในการดันอับดับคีย์เวิร์ดลิงก์จากเว็บอื่นมีเครดิตมากกว่าลิงก์ที่เชื่อมโยงกันเองภายใน

ทำไมลิงก์ถึงสำคัญ?

ลิงก์เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการทำอันดับเพราะว่า Link Equity (ขอใชัตัวย่อว่า LE) หรือพลังความสามารถในการทำอันดับจะถูกส่งไปยังเว็บเพจปลายทาง ทำให้หน้าปลายทางมีความแข็งแรงขึ้นในเชิง SEO และมีโอกาสทำ Ranking ดีขึ้น

ขอยกตัวอย่างเพิ่มเติมเพื่อให้มีความกระจ่างมากขึ้นดังนี้

สมมุติว่าหน้า homepage ของคุณ มี LE เท่ากับ 30 หน่วย และคุณใส่ 3 ลิงก์ลงไป

การส่งผ่าน Link Juice ทางลิงก์

นั่นหมายความว่าหน้าปลายทางแต่ละหน้าจะมีกำลังเพิ่มขึ้นหน้าละ 10 หน่วย (30 หารด้วย 3) มีโอกาสที่คีย์เวิร์ดหลักของแต่ละหน้าจะไต่อันดับได้

5 ปัจจัยต้องรู้ก่อนทำ Link

การสร้างลิงก์มีมากมายหลายกลวิธี อาทิ ลิงก์จากการแสดงความคิดเห็น (Comments), จากการเขียนบทความลงเว็บอื่น (Guest Post), จาการไปฝากข้อมูลธุรกิจเว็บตามไดเรกทอรีต่างๆ (Citation) เป็นต้น

ส่วนตัวเห็นว่าใช้วิธีไหนก็ได้ไม่ผิด ถ้าองค์ประกอบของลิงก์ที่สร้างนั้นถูก องค์ประกอบทีผมว่ามีรายละเอียดดังนี้

1. จำนวนลิงก์

การมีลิงก์ภายหน้าเพจมากเกินไปไม่ทำให้เว็บคุณถูกลงโทษ แต่ส่งผลต่อวิธีที่ Google ค้นหาและประเมินหน้าเว็บของคุณ ถ้าคุณใส่ลิงก์ในหน้ามากจะส่งผลให้ Link Equity ถูกแบ่งไปยังหน้าปลายทางได้น้อยลง

จากในตัวอย่างที่แล้ว ถ้าคุณใส่ลิงก์เพิ่มลงไปอีก 3 รวมเป็น 6 ลิงก์ (Link Equity ยังคงเท่าเดิมคือ 30) นั่นคือหน้าปลายทางแต่ละหน้าจะได้รับพลังเพิ่มเพียงหน้าละ 6 หน่วย ส่งผลให้ความสามารถในการทำ Ranking ลดลงตามไป

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการสร้างลิงก์ออกไปที่อื่นๆ เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ Google แนะนำให้ลิงก์ออกอย่างสมเหตุสมผล ทั้งลิงก์ภายในหรือลิงก์ไปยังเว็บอื่นๆ

ดังนั้นถ้าคุณคิดว่าลิงก์ไปยังหน้าเพจอื่นๆ แล้วทำให้ผู้อ่านเข้าใจเรื่องที่คุณเล่าได้ง่ายขึ้น ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์มากขึ้น จงทำ อย่ากลัวครับ ในทางกลับกันถ้าลิงก์เพื่อจุดประสงค์ดันอันดับให้หน้าปลายทางอย่างเดียว อันนี้ไม่แนะนำ

2. Anchor Text

Anchor text คือข้อความที่เชื่อมโยง Link ไปยังหน้าต่างๆ โดยปกติจะปรากฏเป็นข้อความที่ขีดเส้นใต้สีน้ำเงิน คุณสามารถปรับเปลี่ยนแต่งสีสัน anchor text ได้ด้วยการใช้ CSS, และ HTML

รูปอธิบาย A tag

ข้อความ Anchor ทำให้เครื่องมือค้นหาและผู้ใช้รู้คร่าวๆ ถึงบริบทเนื้อหาของหน้าปลายว่าเกี่ยวกับอะไร เช่นถ้าคุณลิงก์มายังเว็บผมใช้คำว่า SEO Books จะเป็นการส่งสัญญาณให้เครื่องมือค้นหารู้ว่าเว็บปลายทางเป็นเว็บที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการทำ SEO

เราแยกแยะประเภทของ Anchor Text ได้ 5 แบบ

  • ใช้ชื่อแบรนด์เป็นข้อความลิงก์ (Brand Name) เช่น ถ้าลิงก์มายังหน้า Homepage ของเว็บผม คุณก็ใช้ SEO Books เป็น Anchor Text
  • ใช้คีย์เวิร์ดเป็นข้อความลิงก์ (Exact Match) เช่น คีย์เวิร์ดหน้าปลายทางคือ “เรียนทำ SEO” คุณก็ใช้คำหลักคำนี้เป็นข้อความ Anchor ได้เลย
  • ใช้บางส่วนของคีย์เวิร์ดเป็นข้อความลิงก์ (Partial Match) เช่น ใช้ “เรียน SEO” เป็นข้อความลิงก์ชี้ไปหน้าปลายทางที่มี Keyword หลัก “เรียนทำ SEO”
  • ใช้คำทั่วๆ ไป (Generic) เป็น Anchor Text เช่น อ่านต่อ, คลิกที่นี่, ดูข้อมูลเพิ่มเติม เป็นต้น
  • ใช้ URL เป็น Anchor Text เช่น http://seobooks.org/learn-seo/ เป็นต้น

คุณไม่ควรใช้ Anchor Text ประเภทใดประเภทหนึ่งอย่างเดียว ให้ผสมผสานใช้ทุกประเภทอย่างสมเหตุสมผล เช่น ลิงก์แรกที่ชี้ไป Homepage คุณอาจใช้ Brand Name เป็น Anchor Text, ลิงก์ต่อไปอาจใช้ URL เป็นต้น

ความพยายามใดๆ ในการใช้ข้อความ Anchor แบบไม่เป็นธรรมชาติ แต่มุ่งหวังเพื่อการดันอันดับอย่างเดียว อาจถูกตรวจพบและลงโทษโดย Google ได้

3. ลิงก์ที่เข้าถึงได้

เทคโนโลยีบางประเภทที่ web master ใช้สร้างลิงก์ อาจทำให้เกิดปัญหาการเข้าถึงของบอท เช่น การเขียนโค้ด Javascript จะซ่อนลิงก์ไว้ บอทจึงไม่สามารถไปยังหน้าปลายทางได้

<a href=”javascript:void(0)”>ไม่แนะนำ ไม่มีลิงก์</a>

ถ้าทั้งเว็บคุณมีช่องทางเชื่อมโยงไปยังหน้าต่างๆ แบบนี้อย่างเดียว คุณอาจพบปัญหาการจัดทำดัชนีเว็บไซต์ได้

แนะนำให้สร้างลิงก์โดยใช้ <a> tag เพื่อความมั่นใจว่า Link Equity สามารถถูกส่งไปปลายทางได้ครบถ้วน ไม่ตกหล่น

4. Nofollow links

ลิงก์ nofollow คือลิงก์ที่มีแอตทริบิวต์ rel=”nofollow” ใน <a> tag เช่น

<a href=”http://seobooks.org” rel=”nofollow”>SEO Books</a>

Nofollow Link จะไม่ส่งต่อเครดิตหรือ Link Equity ไปยังหน้าปลายทาง

nofollow link

ถึงกระนั้นลิงก์ประเภทนี้ก็ยังมีความจำเป็นและมีประโยชน์

  • ในปี 2019 Google ประกาศว่าใช้ลิงก์แบบ nofollow เป็นคำแนะนำเพื่อให้เข้าใจและวิเคราะห์ลิงก์ได้ดีขึ้น
  • ลิงก์ nofollow อาจไม่ช่วยเพิ่่มแต้มต่อ SEO แต่ก็ยังนำผู้คนมาเข้าเว็บคุณได้
  • ลิงก์ nofollow มีอยู่ในทุกๆ เว็บไซต์ ถ้าเว็บคุณไม่มีลิงก์ประเภทนี้ชี้มาเลย มันจะดูแปลกในสายตาเสิร์ชเอนจิน

ดังนั้นอย่าลังเลที่จะสร้าง Nofollow Link เมื่อจำเป็นครับ

5. Domain/Page Authority

ในทาง SEO เมื่อมีเว็บไซต์อื่นลิงก์มายังเว็บไซต์คุณ เปรียบเสมือนเหมือนกับการแนะนำหรือการรับรองจากบุคคลที่สาม ทำให้เว็บไซต์ของคุณมีความน่าเชื่อถือในสายตา Google มากขึ้น ลิงก์จากภายนอกเหล่านี้ยังทำให้ความแข็งแรงเชิง SEO โดยรวมของเว็บไซต์ (Domain Authority) คุณสูงขึ้นด้วย

Domain Authority

Domain Strength สามารถถูกส่งผ่านไปยังหน้าเว็บเพจต่างๆ ในเว็บไซต์ผ่านทางลิงก์ที่เชื่อมโยงกันเองภายใน หรือ Internal Links หน้าไหนได้รับลิงก์จากหน้าอื่นมาก ความแข็งแรงเชิง SEO ของหน้า (Page Authority) นั้นๆ ก็จะสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว

แนะนำให้หาลิงก์จากไซต์ที่เชื่อถือได้ เว็บใหญ่ๆ ที่อยู่มานานๆ มักมี Link Equity มากกว่าลิงก์จากเว็บไซต์ขนาดเล็ก เว็บอายุน้อยๆ ดังนั้นถ้าสามารถทำได้เน้นสร้าง Link จากเว็บที่น่าเชื่อถือมาเป็นอันดับแรก

6. Link Relevance

ในการทำความเข้าใจธุรกิจ, สินค้าหรือบริการของคุณ Google จะมองลิงก์ Link ใน 3 ลักษณะ ทั้งลิงก์จากเว็บอื่นชี้มายังเว็บคุณ, ลิงก์จากเว็บคุณชี้ไปยังเว็บอื่นๆ และลิงก์ที่เชื่อมโยงกันเองภายใน

ลิงก์ทั้ง 3 ลักษณะควรเป็นลิงก์ที่มีความเกี่ยวข้องกัน (Link Relevance) เช่น ถ้าบทความคุณเกี่ยวกับ “การทำ SEO” ลิงก์ที่ชี้เข้ามาก็ควรเป็นลิงก์จากเพจที่เกี่ยวกับ SEO เช่นกัน ไม่เช่นนั้นลิงก์จะถูกด้อยค่าลงในสายตา Google

การสร้างลิงก์คุณภาพที่มีองค์ประกอบครบตามที่ได้อธิบายไปแล้วนั้นเป็นเรื่องท้าทาย ผมได้แนะนำตัวช่วยเป็นโปรแกรมวิเคราะห์ Link ที่จะช่วยคุณย่นระยะเวลาในการได้มาก ลองไปอ่านกันดูที่บทความนี้ครับ

Similar Posts