เปรียบเทียบ 5 โปรแกรม SEO วิเคราะห์ลิงก์ (Backlink) อันไหนเหมาะกับคุณมากที่สุด
มนุษย์ประดิษฐ์เครื่องวัดเพื่อใช้เปรียบเทียบสิ่งต่างๆ รอบตัวมานานนม เช่นเมื่อคุณสงสัยว่าผลของการควบคุมอาหารเดือนนี้เทียบกับเดือนก่อนเป็นยังไง คุณก็จะใช้เครื่องชั่งน้ำหนักเป็นตัววัด
และคุณก็จะเชื่อผลลัพธ์ที่อ่านได้อย่างสนิทใจเพราะเครื่องชั่งน้ำหนักได้รับการยอมรับโดยปริยายในสากลโลกว่าเป็นเครื่องมือสำหรับการชั่งน้ำหนัก เราชาว SEO จะบอกว่าเว็บไซต์ใดๆ มีความแข็งแรงเชิง SEO มากหรือน้อยกว่ากัน เราจำเป็นต้องมีเครื่องวัดเช่นกัน ในบทนี้ผู้แต่งและทีมงาน SEOBooks ขออาสานำพาเรามาทำความรู้จักเครื่องมือวัดที่มีมาตรฐาน และเป็นที่นิยมมากที่สุด ณ ขณะนี้กัน
เลือกเครื่องมือวัดความสามารถในการแข่งขันคีย์เวิร์ดให้เหมาะกับตัวคุณ
ในปัจจุบันมีอยู่ 4-5 บริษัทผู้ให้บริการซอฟต์แวร์วิเคราะห์ลิงก์ทีได้รับความนิยมสูงได้แก่..
5 เครื่องมือวิเคราะห์ลิงก์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
- MOZ – https://moz.com/
- Ahrefs – https://ahrefs.com/
- SEO Spyglass – https://www.link-assistant.com/seo-spyglass/
- Majestic – https://majestic.com/
- SEMrush – https://www.semrush.com/
แต่ละบริษัทก็มีข้อดีข้อด้อยปลีกย่อยต่างกัน แต่โดยหลักการพื้นฐานทำงานคล้ายคลึงกันคือใช้ลิงก์ (Link) เป็นตัวชูโรงในการวัดความแข็งแรงเชิง SEO ของเว็บไซต์และเว็บเพจ ด้านล่างเป็นตารางเปรียบเทียบเครื่องมือทั้ง 5 ตัว เรียบเรียงจากประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยใช้มาครบหมดทุกเครื่องมือ ดังนี้…
aHrefs | SEMRush | SEO SpyGlass | Majestic | MOZ | |
---|---|---|---|---|---|
ปรับแต่งรายงาน | ★★★★★ | ★★★ | ★★★★ | ★★★ | ★★★ |
โหลดเร็ว | ★★★★ | ★★★★ | ★★★ | ★★★★ | ★★★★ |
Interface ใช้ง่าย | ★★★★★ | ★★★★★ | ★★★★ | ★★★★ | ★★★★ |
ขนาดฐานข้อมูล | 12 T* | 6.2 T* | 2.7 T* | 1.2 T* | 1 T* |
ราคา | $99-$999/mo | $99-$399/mo | $124-$999/yr | $49-$399/mo | $99-$599/mo |
ทดลองใช้ | 7 วัน $7 | ฟรี 7 วัน | ฟรี | ฟรี** | 30 วัน ฟรี |
* T = ล้านๆ ลิงก์ เช่น 12T หมายถึง 12 ล้านล้านลิงก์
**ฟรีไม่จำกัดเวลา แต่มีข้อจำกัดอื่นๆ เช่น จำนวนคีย์เวิร์ดและจำนวนลิงก์ที่สามารถเช็คได้
2 เกณฑ์ประกอบการตัดสินใจ…
ผมมี 2 เกณฑ์ ที่คุณสามารถใช้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกว่าจะใช้เครื่องมือของบริษัทไหน ดังนี้…
2.1 งบประมาณ (Budget)
ถ้าคุณเพิ่งเริ่มเรียนรู้ SEO เรียกได้ว่าเป็นมือใหม่หัดทำและมีงบไม่มากนัก ผมแนะนำให้เริ่มต้นที่ MOZ เพราะว่าคุณมีเวลานานถึง 30 วัน ที่จะทดลองใช้ซอฟต์แวร์โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่ว่าเมื่อหมดเวลาทดลองใช้ผมไม่แนะนำให้ใช้ต่อ เหตุผลหลักคือ MOZ ขนาดฐานข้อมูลเล็กโดยเฉพาะภาษาไทยยังไม่สนับสนุนเต็มที่ ตัวอย่างเช่น ไม่มีข้อมูลปริมาณการค้นหารายเดือน (Monthly Volume) สำหรับคีย์เวิร์ดภาษาไทย…
ถามว่าไม่ให้ใช้ MOZ แล้วให้ใช้อะไร? …
ตอบแบบนี้ครับว่าถ้าคุณเป็นบริษัทขนาดกลางหรือเล็กที่มีงบการตลาดไม่มากนัก ผมแนะนำให้ใช้ SEO Spyglass
เพราะมีราคาถูกที่สุดเริ่มต้นที่ปีละ $124 ซึ่งคุณใช้ซอฟต์แวร์ตัวอื่นได้แค่หนึ่งเดือนเท่านั้นในราคานี้ นอกจากนี้ SEP Spyglass ยังมีขนาดฐานข้อมูลที่ค่อนข้างใหญ่คือประมาณ 2.7 Trillion (ล้านๆ ลิงก์) อาจจะมีข้อเสียอยู่บ้างที่ SEO Spyglass เป็นซอฟต์แวร์ที่ต้องติดตั้งและใช้กับคอมพิวเตอร์ของคุณ ในขณะอีก 4 ตัวคุณสามารถล็อกอินเข้าไปใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านเว็บเบราว์เซอร์ โหลด SEO SpyGlass มาลองใช้ ฟรี!
2.2 สมรรถนะในการใช้งาน (Performance)
ถ้าคุณมีงบเพียงพอ ผมแนะนำให้ใช้ ahrefs เพราะว่านอกจากจะมีฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่สุด Interface ของ ahrefs ยังถูกออกแบบมาให้ใช้ง่ายไม่ต้องเสียเวลานานในการทำเข้าใจง่าย นอกจากนี้คุณสามารถเรียกดูรายงานสำคัญๆ ได้เพียงการคลิก 1 ครั้ง เช่น คุณสามารถเรียกดูได้ว่าหน้าไหนในเว็บไซต์มีลิงก์ชี้ไปหามากที่สุดในรายงาน The Best Pages by Incoming Links
การปรับแต่งรายงานเพื่อดูข้อมูลเฉพาะก็สามารถทำได้ง่ายๆ ผ่าน Filter ในบทแรกผมได้พูดถึงการหาคีย์เวิร์ดที่ติดอันดับอยู่ในหน้าที่สองของ Google ด้วย Google Search Console คุณสามารถทำแบบนี้เช่นกันใน ahrefs แต่วิธีการนั้นง่ายกว่ามาก…
1. เปิด https://ahrefs.com/ แล้วคลิก Site explorer จากเมนูด้านบน
ขั้นตอน 1: คลิกลิงก์ Site Explorer
2. ป้อนเว็บไซต์ของคุณลงไป จากนั้นให้คลิกที่แว่นขยาย
ขั้นตอน 2: ป้อนคีย์เวิร์ดลงไปใน Site Explorer
3. เปิดรายงาน Organic Keywords ด้วยการคลิกลิงก์ Organic keywords (ภายใต้หัวข้อ Organic search) ที่เมนูด้านซ้ายมือ
ขั้นตอน 3: คลิกที่เมนู Organic Keywords
4. ในหน้ารายงาน Organic Keywords จะมีหลากหลาย Filter ให้คุณเลือกเพื่อดูรายงานเฉพาะที่คุณต้องการ ในตัวอย่างนี้ให้คุณเลือก Position แล้วป้อนค่า “11” ในช่อง From และ “20” ในช่อง To เสร็จแล้วกดปุ่ม Apply
เพื่อสร้างรายงานที่มีแต่คีย์เวิร์ดอันดับที่ 11-20 (คีย์เวิร์ดที่ติดหน้าสองของ Google)
จะเห็นว่า ahrefs สามารถย่นระยะเวลาในการทำงาน ช่วยให้คุณสร้างรายงานต่างๆ ได้อย่างง่ายดายด้วยการคลิกไม่กี่คลิก
2.3 จำนวนคนใช้
ถ้าซอฟต์แวร์มีคุณใช้งานอยู่แค่คนเดียว คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงกว่าสำหรับคุณลักษณะ (Features) การใช้งานหลายคน (User seats)
รูปด้านบนแสดงแพ็คเกจของ ahrefs จะเห็นว่าแพ็คเกจ Advanced รองรับผู้ใช้งานได้ 3 คน มีราคาแพงกว่าแพ็คเกจ Standard ที่ใช้งานคนเดียวถึง $220
ก่อนที่จะเลือกใช้ซอฟต์แวร์ตัวไหนผมแนะนำให้เข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมโดยเปรียบเทียบแต่ละแพ็คเกจให้ดีจะได้เลือกเครื่องมือที่มีคุณลักษณะครบและราคาเหมาะสมกับงบประมาณที่ได้ตั้งไว้